หลักการและเหตุผล

     การเปลี่ยนแปลงสภาพทางสังคมอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบันนี้ ทั้งการเปลี่ยนแปลงระบบบริการสุขภาพ การเปลี่ยนแปลงระบบการใช้ข้อมูลผ่านสื่อเทคโนโลยี ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายหลังสิ้นสุดยุคการระบาดของโควิด-19  ล้วนส่งผลกระทบต่อประชาชนในภาพรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับบุคลที่มีการเตรียมพร้อมจนสามารถปรับตัวได้ก็จะเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความเป็นอยู่ที่ปกติสุข อย่างไรก็ตามในบุคคลที่ไม่มีการเตรียมความพร้อมมาก่อนก็จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงบริบททางสังคมดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อันจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อบุคคลเหล่านั้นไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อสุขภาพองค์รวม ก่อให้เกิดความเจ็บป่วยทั้งด้านร่างกายและจิตใจตามมา โดยปัจจัยทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพหรือการจะมีสุขภาพที่ดีนั้นเราเรียกว่าปัจจัยกำหนดสุขภาพ (Social health determinant) ซึ่งมีทั้งปัจจัยด้านบวกที่ส่งเสริมให้เกิดสุขภาพที่ดี และปัจจัยด้านลบหรือปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วย ในยุคของการเปลี่ยนแปลงระบบบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิและการปรับเปลี่ยนกระบวนการดูแลสุขภาพ ตามนโยบายของประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการระดับปฐมภูมิหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลไปอยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อันจะส่งผลกระทบต่อการออกแบบระบบบริการและกระบวนการทำงานด้านการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสมรรถภาพของบุคลากรด้านสุขภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และในยุคที่มีการประยุกต์ใช้เครื่องมือการสื่อสารเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการให้การดูแลสุขภาพ (health technology) ตลอดจนการใช้ระบบสุขภาพทางไกล (Telehealth) เพื่อให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนเพื่อให้เกิดความทั่วถึงและรวดเร็วมากที่สุด สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วยแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ทางสุขภาพของประชาชนในที่สุด

     พยาบาลเวชปฏิบัติต้องมีการพัฒนาองค์ความรู้ต่อเนื่องให้มีความทันสมัยเข้ากับเหตุการณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาเวชปฏิบัติที่มีส่วนหนึ่งต้องเปลี่ยนหน่วยงานในการทำงานจากประทรวงสาธารณสุขไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายใต้กระทรวงมหาดไทย ดังนั้นพยาบาลเวชปฏิบัติต้องมีศักยภาพในปรับกระบวนทัศน์ในการปฏิบัติงานกับองค์กรใหม่ภายใต้บริบทของการทำงานตามบทบาทพยาบาลวิชาชีพคือ การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยอาศัยกระบวนการทำงานตามแนวคิดกระบวนการพยาบาล คือ การประเมินภาวะสุขภาพ การวินิจฉัยความผิดปกติ การวางแผนดูแลและการรักษาโรคเบื้องต้นในกลุ่มอาการต่างๆ ทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะเฉียบพลัน และโรคที่พบบ่อย รวมถึงระบุแนวการประเมินผลตลอดจนการจัดการปัญหาที่ซับซ้อนจากการเปลี่ยนแปลงภาวะสุขภาพ การดูแลรักษาโรคเบื้องต้น และความเปลี่ยนแปลงสุขภาพเบื้องต้น การจัดการกับความเจ็บป่วยเรื้อรัง การจัดการโรคติดเชื้อ ตลอดจนการเรียนรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานและปัญหาการฟ้องร้อง การศึกษาสถานการณ์และแนวโน้มบทบาทของพยาบาลเวชปฏิบัติ และการเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการรักษาโรคเบื้องต้นให้ทันสมัยอย่างสม่ำเสมอ              มีเครือข่ายที่สามารถปรึกษาหรือส่งต่อเมื่อเกินความสามารถหรือขอบเขตความรับผิดชอบมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในทุกด้าน มีความสำคัญยิ่งโดยเฉพาะยุคสังคมดิจิตัลการสื่อสารที่มีการพัฒนาไปไกลในปัจจุบันที่สถานการณ์ความรู้และนวัตกรรมทันสมัยเกิดขึ้นตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นความจำเป็นที่พยาบาลเวชปฏิบัติต้องให้ความสนใจและประยุกต์ให้เหมาะสมกับการดูแลผู้รับบริการ

     กลุ่มวิชาการพยาบาลสาธารณสุขร่วมกับศูนย์บริการพยาบาล เห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงจัดโครงการการอบรมฟื้นฟูวิชาการ สำหรับพยาบาลเวชปฏิบัติ (Online) เรื่อง “บทบาทพยาบาลเวชปฏิบัติ: Update in Health care services and communities health strengthening in the Digital Era” เพื่อเพิ่มพูนความรู้ทักษะสมรรถนะและประสบการณ์แก่พยาบาลเวชปฏิบัติทั่วไปให้ถูกต้องและทันสมัยในการบริการยุคใหม่ซึ่งจะส่งผลให้เกิดคุณภาพในการดูแลผู้ป่วยและประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ระหว่างวันที่ 13 - 17 พฤษภาคม 2567 อบรมทาง Online ผ่าน Application Zoom **ได้รับ 31.5 หน่วยคะแนน CNEU**

เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 2567

วัตถุประสงค์

1. เพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับบทบาทพยาบาล กระบวนการพยาบาล: หลักการประเมินภาวะสุขภาพ การวินิจฉัยโรค การส่งตรวจและการแปลผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการรักษาโรคเบื้องต้น รวมทั้งการใช้ยาและข้อควรระวังในการใช้ยาของพยาบาลเวชปฏิบัติทั่วไป
2. เพื่อเพิ่มพูนความรู้ สมรรถนะ และประสบการณ์ในการปฏิบัติบทบาทพยาบาลเวชปฏิบัติทั่วไป  ในการดูแลสุขภาพระดับปฐมภูมิ ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
3. เพื่อพัฒนาศักยภาพพยาบาลเวชปฏิบัติในการทำงานยุคที่ที่สังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทั้งในการพัฒนานวัตกรรมทางการพยาบาล การให้บริการพยาบาลโดยอาศัยระบบบริการสุขภาพทางไกล
4. เพื่อเตรียมความพร้อมของพยาบาลที่มีการปรับเปลี่ยนบทบาทการทำงานภายใต้การดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้พร้อมและมีศักยภาพในการสร้างและขยายเครือข่าย การประสานความร่วมมือระหว่างพยาบาลเวชปฏิบัติทั่วไปกับหน่วยงานทุกภาคส่วน

ค่าลงทะเบียน

• ค่าลงทะเบียนการอบรม คนละ 4,000 บาท (สี่พันบาทถ้วน)

เอกสารประกอบการสมัคร

1. ใบสมัครลงทะเบียน 1 ฉบับ
2. สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 1 ฉบับ
3. สำเนาใบโอนเงินชำระค่าลงทะเบียน 1 ฉบับ

โปรดส่งเอกสารประกอบการสมัครพร้อมกับชำระค่าลงทะเบียนตามวันเวลาที่กำหนด โดยชำระค่าลงทะเบียนผ่านบัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ชื่อบัญชี “ศูนย์บริการพยาบาล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่” เลขที่บัญชี 566–4–12445-8

ช่องทางการส่งเอกสารประกอบการสมัคร

1. สมัครออนไลน์
2. ทาง E-mail nsccmunews@gmail.com
3. ทางไปรษณีย์ ถึง ศูนย์บริการพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 110/406 ถนนอินทวโรรส ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
4. ทางโทรสาร เบอร์ 053-212629

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม  โทรศัพท์ : 053-936074, 053-949151, 081-9925828 โทรสาร : 053-212629 Email : nsccmunews@gmail.com Facebook : www.facebook.com/nsccmu